[x] ปิดหน้าต่างนี้
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป   
เมนูหลัก
book online

ประเมินความพึงพอใจ

   คุณคิดว่าเวปนี้เป็นอย่างไร


  1. ดีมาก
  2. ดี
  3. ปานกลาง
  4. พอใช้
  5. ปรับปรุง
สถิติผู้เยี่ยมชม

 เริ่มนับ 16/เม.ย./2563
ผู้ใช้งานขณะนี้ 1 IP
ขณะนี้
1 คน
สถิติวันนี้
106 คน
สถิติเมื่อวานนี้ี้
101 คน
สถิติเดือนนี้
2115 คน
สถิติปีนี้
14910 คน
สถิติทั้งหมด
112777 คน
IP ของท่านคือ 3.147.55.42
(Show/hide IP)

  

   เว็บบอร์ด >> ห้องนั่งเล่น >>
นิสัยการกินสุดแย่ ที่ทำให้ระบบเผาผลาญพัง   VIEW : 54    
โดย อันดา

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 10
ตอบแล้ว :
เพศ :
ระดับ : 2
Exp : 63%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 223.24.94.xxx

 
เมื่อ : พุธ ที่ 8 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2566 เวลา 16:30:03   

ทุกคนน่าจะเคยสังเกตเห็นคนที่กินยังไงก็ไม่อ้วนบ้างใช่มั้ยละคะ แล้วก็คงมีคำถามว่า กินเยอะกว่าเราขนาดนี้แถมยังไม่เลือกกินอีกด้วยทำไมถึงไม่อ้วนกันนะ สำหรับการกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนนั้นมีหลายสาเหตุ อาจจะเกิดจากสาเหตุของพยาธิเยอะ ร่างกายขาดสารอาหาร หรือจะเป็นคนที่มีระบบเผาผลาญที่ดี ซึ่งสำหรับคนที่อยากดูแลสุขภาพหรือจะลดน้ำหนักแล้วเนี่ยการมีระบบเผาผลาญที่ดีนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ หรือจะเรียกได้ว่า การมีระบบการเผาผลาญที่ดีนั้นเป็นหัวใจสำคัญของคนน้ำหนักเลยล่ะค่ะ

กระบวนการเผาผลาญพลังงานของร่างกายนั้นมีความสำคัญต่อการทำงานของร่างกายหลายประการ หลักๆ คือ การเปลี่ยนอาหารที่คุณกินเข้าไปให้กลายเป็นพลังงาน และนำพลังงานนั้นไปใช้กับกิจกรรมที่คุณทำระหว่างวัน โดยพลังงานจะค่อยๆ เผาผลาญจนหมดไปกับกิจกรรมที่คุณทำนั่นเอง ถ้าระบบเผาผลาญของคุณทำงานเป็นปกติดี ร่างกายจะเผาผลาญพลังงาน (ได้ดี) แม้ในขณะที่กำลังนอนหลับ! แต่ถ้าระบบเผาผลาญคุณมีปัญหา ร่างกายคุณก็จะเผาผลาญพลังงานได้น้อยลงและช้าลง ทดลองเล่นบาคาร่า

ระบบเผาผลาญพลังงานของร่างกายเรานี้อาจเสื่อมลงได้โดยที่เราไม่รู้ตัว แต่เมื่อระบบเผาผลาญทำงานผิดปกติ จะเกิดสัญญาณเตือนต่อร่างกาย เช่น ผมร่วง ผิวแห้ง เหนื่อยล้าอ่อนเพลีย และน้ำหนักขึ้น หรือมีปัญหาในการลดน้ำหนัก การทำงานที่ผิดปกติของระบบเผาผลาญเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิด แต่เราสามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ แค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารบางอย่าง เพื่อช่วยให้อัตราการเผาผลาญของร่างกายดีขึ้น เล่นบาคาร่าออนไลน์ฟรี

Amy Goodson ผู้เขียนหนังสือ The Sports Nutrition Playbook นักโภชนาการและผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมอาหาร และ Lauren Harris-Pincus ผู้ก่อตั้งและเจ้าของ NutritionStarringYOU.com ผู้เขียน The Everything Easy Pre-Diabetes Cookbook อีกทั้งยังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมน้ำหนักและภาวะก่อนเป็นเบาหวาน มีคำแนะนำเกี่ยวกับพฤติกรรมการกินที่แย่ๆ ที่สุด ที่จะทำให้ระบบเผาผลาญพังโดยไม่รู้ตัว ดังนี้

ได้รับโปรตีนไม่เพียงพอ
โปรตีน เป็นสารอาหารประเภทหนึ่งที่สำคัญต่อระบบเผาผลาญพลังงานของร่างกาย จากข้อมูลของ Nutrition & Metabolism พบว่า การบริโภคอาหารที่มีโปรตีนสูง มีความสัมพันธ์โดยตรงกับอัตราการเผาผลาญที่ดีขึ้น นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าเราต้องให้ความสำคัญกับการบริโภคโปรตีนให้มาก ไม่ใช่แค่กินให้มาก แต่ให้กินให้เพียงพอ เราอาจจะต้องคำนวณปริมาณโปรตีนที่เหมาะสมสำหรับร่างกายระหว่างมื้ออาหารกับของว่าง เพราะควรจะได้โปรตีนไปส่งเสริมการทำงานของระบบเผาผลาญ และเพื่อการเจริญเติบโตและซ่อมแซมกล้ามเนื้อที่สึกหรอของร่างกายด้วย
นักโภชนาการจึงแนะนำให้กำหนดปริมาณการรับโปรตีนสำหรับอาหารทุกมื้อ เพื่อให้แน่ใจว่าจะได้รับโปรตีนเพียงพอตลอดทั้งวัน เช่น บริโภคโปรตีนอย่างน้อย 20-25 กรัม (3-4 ออนซ์) ต่อมื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมื้อเช้า

งดอาหารเช้า
หลายคนงดอาหารเช้าเป็นนิสัยไปแล้ว โดยอาจจะอ้างเหตุผลว่าไม่ว่างกินมื้อเช้า ไม่หิว แค่กาแฟแก้วเดียวก็พอ หรือบางคนกำลังพยายามควบคุมอาหาร ควบคุมแคลอรี่ จึงตัดสินใจงดอาหารมื้อแรกของวัน ไม่ว่าจะคุณจะอ้างเหตุผลอะไรก็ตาม คุณต้องคิดใหม่เดี๋ยวนี้ เพราะที่คุณคิดอยู่นั้นมันผิดมหันต์! คุณต้องคิดว่าการเผาผลาญก็คือไฟ แต่ไฟจะจุดติดได้อย่างไรถ้าไม่มีเชื้อเพลิง ซึ่งอาหารเช้านี่แหละคือเชื้อเพลิงสำหรับการเริ่มต้นการทำงานของระบบเผาผลาญ หากคุณต้องการปรับการทำงานของระบบเผาผลาญ คุณต้องเปลี่ยนกิจวัตรการกินอาหารเช้าของคุณ

ประโยชน์ของการกินมื้อเช้า ก็เพื่อจุดไฟให้กับระบบเผาผลาญได้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ฉะนั้น จะดีมากถ้าคุณเลือกเชื้อเพลิงชั้นดีให้กับร่างกายตั้งแต่มื้อเช้า เช่น อาหารเช้าที่อุดมด้วยไฟเบอร์ โปรตีนไม่ติดมัน ไขมันที่ดีต่อสุขภาพ และพวกผักผลไม้

ติดตามข่าวสารอัพเดตล่าสุดได้ที่ https://shorturl.asia/ALr0Y