ผบช.ไซเบอร์ เผย ตร.ออกคำสั่งโอนคดี P Miner หลอกผู้เสียหายร่วมลงทุนขุดเหรียญ และซื้อขายเหรียญ คริปโตเคอร์เรนซี ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI รับเป็นคดีพิเศษ
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 21 พ.ย.65 ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) จ.นนทบุรี พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินคดีกับ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พี มายเนอร์ คริปโทเคอร์เรนซี กรุ๊ป จำกัด ที่ได้ร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหายหลายรายให้ร่วมลงทุนขุดเหรียญ และซื้อขายเหรียญ คริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) ว่า คดีนี้ทาง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับมายังกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดทำการสืบสวนสอบสวน ขยายผล ปราบปรามการกระทำความผิดที่เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี รวมถึงการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ จนสามารถจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องได้ 4 ราย ตรวจยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 232 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์ 710 ราย ความเสียหายรวมกว่า 953 ล้านบาท และทาง บช.สอท. ได้ทำการอายัดบัญชีธนาคารของผู้ที่เกี่ยวข้องกว่า 117 บัญชี อายัดเงินในบัญชีได้ 112 ล้านบาท อายัดเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท ซึ่งคดีดังกล่าวเป็นความผิดมูลฐานตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 พนักงานสอบสวนได้รายงาน สำนักงาน ปปง. ตามระเบียบแล้ว อยู่ระหว่างการออกคำสั่งยึดและอายัด ของสำนักงาน ปปง.
ข่าวแนะนำ
ตร.บ้านแพง ดำเนินคดีเจ้าของร้านขายระเบิดปิงปองให้ นร.จนเกิดระเบิดบาดเจ็บ
ตร.บ้านแพง ดำเนินคดีเจ้าของร้านขายระเบิดปิงปองให้ นร.จนเกิดระเบิดบาดเจ็บ
ปทส.บุกปราจีนบุรี จับฟาร์มจระเข้เถื่อนมุงสังกะสี ยึดของกลางได้ 160 ตัว
ปทส.บุกปราจีนบุรี จับฟาร์มจระเข้เถื่อนมุงสังกะสี ยึดของกลางได้ 160 ตัว
ลูกทรพีทาสยาเกาะแม่กิน ก่อเหตุมาตุฆาต ทุบหัวดับคาบ้าน
ลูกทรพีทาสยาเกาะแม่กิน ก่อเหตุมาตุฆาต ทุบหัวดับคาบ้าน
ผบก.น.2 ยันคดีอุ้มเรียกค่าไถ่เข้าใจผิด เป็นคนจีนนัดใช้หนี้คริปโต 3 ล้าน
ผบก.น.2 ยันคดีอุ้มเรียกค่าไถ่เข้าใจผิด เป็นคนจีนนัดใช้หนี้คริปโต 3 ล้าน
พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนในสังกัด บช.สอท. ดำเนินการรวบรวมสำนวนการสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าว ส่งมอบให้กับ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายต่อไปแล้ว ทั้งนี้ขอฝากเตือนประชาชนถึงแนวทางการลงทุนในรูปแบบต่างๆ ว่าควรศึกษาทำความเข้าใจให้ดี ก่อนตัดสินใจลงทุน พิจารณาถึงความเสี่ยง และความน่าเชื่อถือของผู้ประกอบการ, อย่าหลงเชื่อเพียงเพราะว่ามีการแอบอ้างผู้มีชื่อเสียง หรือใช้สัญลักษณ์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน, อย่าหลงเชื่อการลงทุนที่เข้าถึงได้ง่าย ได้รับผลตอบแทนสูงในเวลาอันรวดเร็ว, หลีกเลี่ยงการโอนเงินให้ผู้อื่นซื้อขายแทน ควรลงทุนด้วยตนเอง รวมถึงติดต่อกับผู้ให้บริการที่มีใบอนุญาตจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยตรง
ควรศึกษาทำความเข้าใจกับสิ่งที่จะนำเงินไปลงทุนด้วยทุกครั้งhttps://bit.ly/3OoYu8j
|