[x] ปิดหน้าต่างนี้
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป   
ค้นหา   
เมนูหลัก
Facebook

กศน.อำเภอห้วยทับทัน

กศน.ตำบลผักไหม

กศน.ตำบลกล้วยกว้าง

กศน.ตำบลจานแสนไชย

กศน.ตำบลเมืองหลวง

กศน.ตำบลห้วยทับทัน

กศน.ตำบลปราสาท

ห้องสมุดประชาชนอำเภอห้วยทับทัน

ระบบสมาชิก
Username :
Password :
[ สมัครสมาชิก ] | [ ลืมรหัสผ่าน ]
สมาชิกทั้งหมด 6 คน
สมาชิกที่กำลังออนไลน์ 0 คน
ฝากข้อความ
ชื่อ :
ข้อความ (ตัวแสดงอารมณ์)

  

   เว็บบอร์ด >> ห้องนั่งเล่น >>
“ข้าวโพด” เมล็ดพืชรสหวาน ขวัญใจคนทุกเพศทุกวัย   VIEW : 529    
โดย D

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 1
ตอบแล้ว :
เพศ :
ระดับ : 1
Exp : 20%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 49.228.200.xxx

 
เมื่อ : จันทร์ ที่ 18 เดือน ตุลาคม พ.ศ.2564 เวลา 21:38:05   

“ข้าวโพด” เมล็ดพืชรสหวาน ขวัญใจคนทุกเพศทุกวัย ด้วยรสอันหอมหวาน เนื้อสัมผัสแน่น เคี้ยวมัน แถมรับประทานแล้วอิ่มท้องไม่เพียงพอ ข้าวโพดยังอุดมไปด้วยคุณค่าสำคัญมากมาย สล็อต ที่ผู้คนจำนวนมากบางทีอาจไม่ได้นึกฝัน ว่าแต่ว่าจะมีอะไรบ้าง มาหาคำตอบไปพร้อมเลย
แคลลอรี : 96
น้ำ : 73%
โปรตีน : 3.4 กรัม
ไขมัน : 1.5 กรัม
คาร์โบไฮเดรต : 21 กรัม
น้ำตาล : 4.5 กรัม
เส้นใย : 2.4 กรัม
ประโยชน์ของข้าวโพด
1. อุดมไปด้วยสารอาหารที่สำคัญ
นอกเหนือจากการที่จะเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตแล้ว ข้าวโพดยังมีสารอาหารที่ร่างกายปรารถนามากไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นธาตุฟอสฟอรัส แมกนีเซียม แมงกานีส สิลีเนียม สังกะสี แล้วก็เหล็ก ซึ่งสารอาหารพวกนี้ช่วยทำให้ร่างกายเจริญวัย บำรุงกระดูกให้แข็งแรง ทั้งยังข้าวโพดยังอุดมไปด้วยวิตามินเยอะมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิตามินบีชนิดต่างๆที่มีอยู่แทบครบวิตามินบีรวม กล่าวได้ว่าเพียงแค่รับประทานอาหารโพดวันละฝักก็ทำให้ได้รับสารอาหารที่ต้องต่อสภาพร่างกายครบบริบรูณ์แล้ว
2. ดีต่อระบบที่ทำหน้าที่ย่อยอาหาร
ข้าวโพดมีทั้งยังเส้นใยที่ละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ สล็อต  โดยเส้นใยที่ละลายน้ำได้มีบทบาทช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลรวมทั้งน้ำตาลในเลือด ส่วนเส้นใยจำพวกที่ไม่ละลายในน้ำจะช่วยทำให้ระบบการทำงานด้านการย่อยอาหาร ระบบขับถ่าย และก็รูปแบบการทำงานของไส้ดียิ่งขึ้น ด้วยเหตุนั้นการกินข้าวโพดก็เลยช่วยทำให้พวกเราถ่ายดียิ่งขึ้น ลดอาการผันแปรของไส้ ลดอาการท้องร่วง คุ้มครองท้องผูก ริดสีดวงทวาร รวมทั้งโรคมะเร็งไส้ได้อีกด้วย
3. อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
สารลูทีน (Lutein) รวมทั้งซีแซนทีน (Zeaxanthin) ที่อยู่ในข้าวโพด มีส่วนช่วยคุ้มครองดวงตา ลดการเสี่ยงของการย่อยสลายของต้อกระจก ในเวลาเดียวกันสารต้านอนุมูลอิสระ เควอสิตำหนิน (quercetin) ช่วยลดการอักเสบอีกทั้งแบบทันควันและก็เรื้อรัง คุ้มครองป้องกันการเกิดโรคทางระบบประสาท ดังเช่น อัลไซเมอร์ ยิ่งไปกว่านี้ เควอสิตำหนิน (Quercetin) ยังเชื่อมโยงกับ อะพอเพียงพโทสิส(apoptosis) ซึ่งมีบทบาทสำหรับเพื่อการทำลายเซลล์ที่ย่อยสลายหรือเซลล์ที่ไม่ดีเหมือนปกติภายในร่างกายอีกด้วยผลของการค้นหา

4. ต่อต้านโรคมะเร็ง
จากการศึกษาเรียนรู้วิจัยพบว่า ข้าวโพดหวานที่ปรุงสุกจะปลดปล่อยกรดเฟอรูลิก (Ferulic Acid) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยรักษาโรคโรคมะเร็งเต้านมและก็โรคมะเร็งตับได้ ช่วยล้างพิษอนุมูลอิสระที่ไปประทุษร้ายกับเซลล์ภายในร่างกาย มีส่วนช่วยลดการเสี่ยงโรคมะเร็งลงไปได้ระดับหนึ่ง
5. บำรุงหัวใจ
ในน้ำมันที่ผลิตขึ้นมาจากข้าวโพดจะช่วยทำให้ร่างกายจะซับไขมันสารเลวได้ลดลง ขณะที่ไขมันดีก็จะถูกดูดซับได้มากขึ้น นำมาซึ่งการทำให้การเสี่ยงโรคเส้นโลหิตหัวใจลดน้อยลงไปด้วย นอกจากนั้นน้ำมันที่ทำขึ้นมาจากข้าวโพดยังมีรูปร่างไขมันอิ่มตัวที่เหมาะเจาะต่อสิ่งที่มีความต้องการของร่างกาย อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งมีคุณประโยชน์ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด ทำให้น้ำมันที่ทำขึ้นมาจากข้าวโพดมีคุณประโยชน์ช่วยลดจังหวะมีการตันของไขมันในเส้นโลหิต ช่วยลดความดันเลือด และก็ลดการเสี่ยงโรคหัวใจวายได้นั่นเอง
ข้าวโพดกับข้อมูลทางโภชนาการ
ข้าวโพดเป็นเมล็ดพืชเต็มเม็ด ซึ่งจำพวกที่คนโดยมากนิยมเอามากินเป็นข้าวโพดหวาน ป๊อบคอร์น แล้วก็ข้าวโพดข้าวเหนียวหรือข้าวสาลี โดยเอามาต้มสุกรับประทาน ใช้ปรุงอาหารหรือทำอาหารหวาน แม้กระนั้นเว้นเสียแต่รสหวานอร่อยแล้ว ข้าวโพดยังประกอบไปด้วยสารอาหารที่ต้องต่อสภาพร่างกาย ดังต่อไปนี้
คาร์โบไฮเดรต ข้าวโพดมีคาร์โบไฮเดรตเป็นส่วนประกอบหลักเหมือนกับเมล็ดพืชประเภทอื่นๆโดยข้าวโพดต้ม 1 ฝัก ที่หนักโดยประมาณ 100 กรัม จะมีแป้ง 21 กรัม แล้วก็น้ำตาล 4.5 กรัม ซึ่งข้าวโพดเพียงแค่ครึ่งฝักให้คาร์โบไฮเดรตเสมอกันอาหารงาม 1 ทัพพี หมอก็เลยไม่เสนอแนะให้กินข้าวโพดรวมทั้งข้าวสุกในมื้อเดียวกัน เพื่อไม่ให้ร่างกายได้รับพลังงานมากเกินไป
ใยอาหาร ข้าวโพดมีใยอาหารสูง โดยข้าวโพดหวานที่ต้มแล้ว 1 ฝัก จะมีใยอาหารราว 2.4 กรัม ส่วนป๊อบคอร์น 1 ถุง ที่หนักโดยประมาณ 112 กรัม จะมีใยอาหารประมาน 16 กรัม ซึ่งคิดเป็น 42 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนที่ร่างกายเพศชายปรารถนา/วัน รวมทั้ง 64 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนที่ร่างกายหญิงอยากได้/วัน
วิตามินแล้วก็ธาตุ ข้าวโพดแต่ละประเภทมีวิตามินและก็แร่นาๆประการ โดยข้าวโพดหวานอุดมไปด้วยวิตามินบี ซึ่งมีคุณลักษณะช่วยทำให้ร่างกายนำสารอาหารจำพวกไขมัน คาร์โบไฮเดรต แล้วก็โปรตีนไปใช้อย่างมีคุณภาพ รวมทั้งยังมีวิตามินเอที่ช่วยบำรุงรักษาสายตารวมทั้งทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นสำหรับในการแลเห็น ส่วนป๊อบคอร์นนั้นเป็นแหล่งของกินสำคัญของธาตุหลายแบบ ดังเช่นว่า ธาตุฟอสฟอรัส แมกนีเซียม แมงกานีส สังกะสี รวมทั้งทองแดง แต่ว่าป๊อบคอร์นที่จัดจำหน่ายตามตลาดมักมีน้ำมัน เนย เกลือ หรือน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ ถ้าเกิดกินมากเกินความจำเป็นก็อาจจะทำให้กำเนิดปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพตามมาได้
สารต้านอนุมูลอิสระ ข้าวโพดอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลายประเภทที่ช่วยคุ้มครองป้องกันหรือยั้งความเสื่อมโทรมของเซลล์ที่เกิดขึ้นมาจากอนุมูลอิสระ อันเป็นเหตุก่อโรคต่างๆดังเช่น โรคมะเร็ง โรคเส้นโลหิต ฯลฯ โดยข้าวโพดหวานที่คนโดยมากนิยมกินมีกรดเฟอรูลิก (Ferulic Acid) และก็สารต้านอนุมูลอิสระในกรุ๊ปแคโรทีนอยด์ (Carotenoids) ซึ่งเป็นสารสีที่ให้สีเหลือง สีส้ม และก็สีแดงแก่พืชที่ได้เจอในข้าวโพด อาทิเช่น ซีแซนทิน (Zeaxanthin) ลูทีน (Lutein) คริปโตแซนทิน (Cryptoxanthin) และก็เบต้าแคโรทีน (Beta Carotene)

สารโภชนาการกลุ่มนี้ที่เจอในข้าวโพดทำให้มั่นใจว่าข้าวโพดบางทีอาจดีต่อร่างกายด้านต่างๆและก็อาจมีสมรรถนะคุ้มครองปกป้องการเกิดโรคบางสิ่งบางอย่างได้ อย่างไรก็ดี มีงานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์เล็กน้อยค้นคว้าเกี่ยวกับประโยชน์ซึ่งมาจากข้าวโพดในทางมุมต่างๆไว้ ดังต่อไปนี้

บำรุงสายตา ข้าวโพดเป็นเมล็ดพืชที่มีวิตามินเอออกจะสูง ซึ่งต้องต่อร่างกายของดวงตารวมทั้งช่วยทำให้สมรรถนะสำหรับในการเห็นดียิ่งขึ้น โดยข้าวโพดมีวิตามินเอสูขี้งกว่าเมล็ดพืชประเภทอื่นถึง 10 เท่า แล้วก็ยังมีสารคริปโตแซนทินและก็เบต้าแคโรทีนที่เป็นสารเริ่มต้นของวิตามินเอ ซึ่งเมื่อไปสู่ร่างกายแล้วจะถูกกลายเป็นวิตามินเอให้ร่างกายใช้ประโยชน์ผลดี โดยมีงานศึกษาเรียนรู้หนึ่งให้เด็กอายุ 4-8 ปี ปริมาณ 1,024 คน ที่มีความเสี่ยงต่อภาวการณ์ขาดวิตามินเอหรือมีอาการป่วยด้วยภาวการณ์นี้ทานข้าวโพดวันละ 2 ครั้ง ทีละ 200 กรัม ตรงเวลา 6 วัน/อาทิตย์ ต่อเนื่องกัน 6 เดือน รวมทั้งเทียบการโต้ตอบต่อแสงสว่างของรูม่านตาอีกทั้งก่อนรวมทั้งข้างหลังการทดสอบ พบว่าเด็กที่รับการทดสอบหรูหราการโต้ตอบต่อแสงสว่างของรูม่านตาดียิ่งขึ้น แต่ว่าข้าวโพดที่ใช้ในงานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยเป็นสายพันธุ์ที่ได้รับการปรับแก้ให้มีเบต้าแคโรทีนสูงขึ้นมากยิ่งกว่าสายพันธุ์ทั่วๆไป โดยมีจำนวนเบต้าแคโรทีนอยู่ที่ 15 ไมโครกรัม/น้ำหนัก 1 กรัม ก็เลยไม่สามารถที่จะนำงานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยนี้มายืนจนถึงคุณภาพของข้าวโพดที่มิได้รับการปรับปรุงแก้ไขประเภทได้จนกระทั่งจะมีการทดสอบที่แจ้งชัดถัดไป

เว้นแต่วิตามินเอ สารซีแซนทินและก็ลูทีนในข้าวโพดอาจมีคุณประโยชน์ต่อดวงตาเช่นเดียวกัน ด้วยเหตุว่ามีสารทั้ง 2 ประเภทนี้สะสมอยู่รอบๆหน้าจอประสาทตาในจำนวนสูง แล้วก็มั่นใจว่าโรคหน้าจอประสาทตาเสื่อมที่มักเกิดขึ้นกับคนวัยชราบางทีอาจเกี่ยวเนื่องกับการได้รับสารซีแซนทินรวมทั้งลูทีนน้อยเกินไป โดยมีการวิจัยที่เก็บข้อมูลการกินอาหารของคนป่วยโรคหน้าจอประสาทตาเสื่อมอายุระหว่าง 55-80 ปี ปริมาณ 356 คน พบว่าคนป่วยที่ทานอาหารซึ่งมีสารกรุ๊ปแคโรทีนอยด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารซีแซนทินและก็ลูทีนในจำนวนมากที่สุด มีโอกาสเสี่ยงต่อโรคหน้าจอประสาทตาเสื่อมต่ำลงมากยิ่งกว่ากรุ๊ปที่กินซีแซนทินแล้วก็ลูทีนในจำนวนต่ำที่สุดถึง 43 เปอร์เซ็นต์ ก็เลยอาจจะกล่าวว่าการกินอาหารที่อุดมไปด้วยซีแซนทินและก็ลูทีนอย่างข้าวโพดมีลักษณะท่าทางช่วยลดการเสี่ยงต่อโรคหน้าจอประสาทตาเสื่อมได้ แต่งานวิจัยดังที่กล่าวผ่านมาแล้วมิได้กำหนดให้กลุ่มทดลองทานข้าวโพดเพียงอย่างเดียว จำเป็นที่จะต้องค้นคว้าศึกษาค้นคว้าในด้านนี้ถัดไปโดยกำหนดที่การบริโภคข้าวโพดเพียงอย่างเดียว เพื่อการันตีประสิทธิผลของข้าวโพดซึ่งบางทีอาจมีคุณประโยชน์ต่อการคุ้มครองป้องกันหรือรักษาโรคตาในอนาคต

ช่วยเหลือรูปแบบการทำงานของระบบขับถ่าย ข้าวโพดอุดมไปด้วยใยอาหารในจำนวนสูง และก็จำนวนมากเป็นเส้นใยประเภทไม่ละลายน้ำ ซึ่งมีคุณลักษณะช่วยกระตุ้นแนวทางการทำงานของไส้ให้มีการบีบตัวเจริญ แล้วก็ช่วยทุเลาอาการเปลี่ยนไปจากปกติทางไส้ ดังเช่น ท้องผูก ริดสีดวง รวมทั้งสภาวะกลั้นอุจจาระมิได้ ฯลฯ การทานข้าวโพดก็เลยบางทีอาจช่วยทำให้ระบบการทำงานด้านการย่อยอาหารดำเนินการได้ดิบได้ดีขึ้น และก็บางทีอาจช่วยคุ้มครองป้องกันโรคระบบทางเดินอาหารได้ด้วย