[ คลิกที่รูปเพื่อดูขนาดจริง ]
"เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค เจองานไม่ยากนัก แถมเกมนี้ มักซิม ชูโป-โมติง ระเบิดฟอร์มจัด 4 ลูก พาทีมไล่อัด เบรแมร์ เอสเฟา ทีมระดับดิวิชั่น 5 สกอร์อิ่มเอม 11-0 ทะลุรอบสามบอลถ้วยรายการนี้ต่อไป ในการแข่งขันศึกฟุตบอลเดเอฟเบ โพคาล เยอรมันรอบสอง คืนวันพุธที่ 25 สิงหามที่ผ่านมา
การแข่งขันฟุตบอลเดเอฟเบ โพคาล เยอรมันรอบสอง คืนวันพุธที่ 25 สิงหามที่ผ่านมา ที่สนาม โวห์นอินเวสต์ เวเซอร์สตาดิโอน (สนามกลาง) "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค เพิ่งประเดิมสามแต้มแรกในลีกสุดสัปดาห์ โปรแกรมเดิมถูกเลื่อนจากช่วงก่อนเปิดซีซั่น หลังนักเตะเจ้าถิ่นติดเชื้อโควิด-19 โดย ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ พักสตาร์ "เลวานดอฟสกี้" ที่ไร้ชื่อนัดนี้ พร้อมปรับทีมผสมตัวจริง-เด็ก ลงเล่น มี "โธมัส มุลเลอร์" นำทัพดวล เบรแมร์ เอสเฟา จากโอเบอร์ลีกา หรือลีกระดับดิวิชั่น 5 ที่ขอโค่นยักษ์สร้างเซอร์ไพร์ส
ออกสตาร์ทเกมครึ่งแรกได้เพียงแค่สี่นาทีแรก เสือใต้ทักทาย โยชัว คิมมิช ดีดตั้งบอลให้ โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ ปรี่มายิงนอกกรอบเขตโทษ บอลเบาเข้ามือนายทวารคู่แข่ง สองนาทีต่อมา ลามีน ดิย็อป กระชากบอลตัดเข้ากลางสนาม ก่อนส่องไกล บอลกระดอนมือ สเวน อูลไรช์ ย่อตัวรับสบาย อึดใจถัดมา โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ แทงบอลออกมาทางขวา จามาล มูเซียล่า รับบอลแล้วซัดในเขตโทษ บอลถูกแนวรับเบรแมร์ เคลียร์ทิ้ง แต่ช่วงนาทีที่ 8 บาเยิร์น ออกนำ เบรแมร์ ก่อน 1-0 จากจังหวะของ เลรอย ซาเน่ ลากบอลมาด้านซ้ายจ่ายไปที่ มักซิม ชูโป-โมติง แตะบอลซัดระยะ 8 หลาบอลเสยคานเด้งซุกตาข่าย พี่เสือลุยอีกนาทีที่ 11 โอมาร์ ริชาร์ดส์ หยอดบอลทิ้งเข้าเขตโทษ มักซิม ชูโป-โมติง สปีดมาหวดตามน้ำทว่าบอลติดขา มัลเต้ เซมันน์ นายทวารเบรแมร์สกัดได้ทันเวลา ในนาทีที่ 16 บาเยิร์นฉีกหนีเป็น 2-0 จากจังหวะของ นิคลาส ซือเล่ ดันสูงมาส่งบอลสั้น จามาล มูเซียล่า ทำชิ่งกับ มักซิม ชูโป-โมติง ก่อนที่แนวรุกดาวรุ่งพี่เสือ หลุดเข้าเขตโทษมาแปบอลหนีตัวนายทวารเบรแมร์ เข้าประตูไป ถัดมานาทีที่ 27 ขยับสกอร์เป็น 3-0 จากจังหวะที่ มักซิม ชูโป-โมติง ได้บอลในเขตโทษ เจ้าตัวโยกหามุมซัด ก่อนไหลออกมาทางขวา และเป็น จามาล มูเซียล่า จัดการซัดตุงตาข่าย แต่เหมือนบอลจะเป็นการทำเข้าประตูตนเองของ ยาน-ลูก้า วาร์ม แข้งทีมลีกาห้า แถมช็อตต่อมานาทีที่ 28 เสือใต้นำไกล 4-0 โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ แย่งบอลจากแข้งคู่แข่ง แทงเร็วเข้าเท้า เลรอย ซาเน่ ปาดเรียดให้ มักซิม ชูโป-โมติง ตั้งเท้าแประยะ 6 หลา ผลิตสกอร์ให้ยักษ์ใหญ่ลีก แชมป์บุนเดสเฮอีก 5-0 นาทีที่ 35 โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ วางบอลหน้ากรอบเขตโทษ โธมัส มุลเลอร์ โขกบอลชงตั้งที่เสาแรกด้านซ้าย และเป็น มักซิม ชูโป-โมติง ตามมาซ้ำระยะเผาขน ทำแฮตทริกของเจ้าตัวเกมนี้สำเร็จ หมดครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
เริ่มเกมครึ่งหลังแค่สองนาที เสือใต้ นำสบายครึ่งโหล 6-0 จาก อิครามี่ โอลาตุนยี่ แนวรับเบรแมร์ จ่ายบอลให้เพื่อนไม่ดีถูก มาลิค ทีลล์มัน ตัวสำรองพี่เสือที่เพิ่งลงมาฉกบอลไปยิง นาทีที่ 48 บาเยิร์น เพิ่มสกอร์เป็น 7-0 มักซิม ชูโป-โมติง ผ่านบอลเรียดมาตรงวงกลมเขตโทษ จามาล มูเซียล่า แต่งบอลหลบผู้เล่นคู่แข่ง ก่อนตะบันบอลเสียบตาข่ายด้านซ้าอย่างแม่นยำ ช่วงนาทีที่ 63 แซร์ช นาบรี้ ลงเป็นสำรองสปีดมาตบบอลทางขวาในเขตโทษ มักซิม ชูโป-โมติง แปสวนทันทีบอลติดเซฟนายทวารคู่แข่ง เสือใต้ชวดประตูอีกเม็ด นาทีที่ 65 บาเยอร์น นำเป็น 8-0โอมาร์ ริชาร์ดส์ ดักโหม่งบอลโขกสกัดของแนวรับเบรแมร์ บอลทะลักมาหา เลรอย ซาเน่ ยิงยัดไปทางเสาสองด้านขวา กลายเป็นอีกหนึ่งประตูของทัพ บาเยิร์น นาทีที่ 76 มิคาเอล กุยซองส์ จ่ายบอลจังหวะเดียวมาให้ มาลิค ทีลล์มัน กำลังจะหลุดเข้าไปซัดบอล ทว่ามี อูโก้ โนบิเล่ กองหลังคู่แข่งดึงเสื้อแทบขาด กรรมการมองเป็นแนวรับตัวสุดท้าย ชูใบแดงไล่พ้นสนาม เบรแมร์ เหลือผู้เล่น 10 คน สิบนาทีท้ายเกมนาทีที่ 80 เสือใต้ได้เพิ่มอีกหนึ่ง สกอร์ 9-0 แซร์ช นาบรี้ ฉีกมาเก็บบอลในเขตโทษ ก่อนส่งเข้ากลางระยะ 7 หลา มิคาเอล กุยซองส์ แปยัดบอลส่งก้นตาข่าย แถมเสือใต้มาได้อีกสามประตู มักซิม ชูโป-โมติง ตะบันลูกที่ 4 ของตัวเอง ส่วน บรูโน่ ซาร์-โกร็องแต็ง โตลิสโซ่, หวดเม็ดแรกของตัวเองทั้งคู่ นาทีที่ 82-86 และ 88 ตามลำดับ จบเกม บาเยิร์น มิวนิค ถล่มโหด เบรแมร์ เอสเฟา 12-0 การันตีเข้ารอบสามบอลถ้วยรายการนี้ต่อไป
รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม
เบรแมร์ เอสเฟา : มัลเต้ เซมันน์ (โอเล่ บาหร์ น.70) (GK), ยาน-ลูก้า วาร์ม, อูโก้ โนบิเล่ (เควิน คุงเคล น.70), อิครามี่ โอลาตุนยี่ (อัตซึชิ วากิ น.58), เซบาสเตียน คเมียค (อาลี วาซเนห์ น.58), ลูคัส มุสซอง, แมตส์ ไกเซอร์, ลามีน ดิย็อป (มาห์ดี้ มาตาร์ น.58), อเล็กซานเดอร์ อาร์นโฮลด์, เซบาสเตียน คูร์เควิคซ์, ออสการ์ การ์เซีย
บาเยิร์น มิวนิค : สเวน อูลไรช์ (GK), บรูโน่ ซาร์, นิคลาส ซือเล่ (คริส ริชาร์ดส์ น.46), ต็องกีย์ เนียงซู, โอมาร์ ริชาร์ดส์, โยชัว คิมมิช (มิคาเอล กุยซองส์ น.46), โกร็องแต็ง โตลิสโซ่, เลรอย ซาเน่ (เทย์เลอร์ บูธ น.68), โธมัส มุลเลอร์ (มาลิค ทีลล์มัน น.46), จามาล มูเซียล่า (แซร์ช นาบรี้ น.61), มักซิม ชูโป-โมติง
อัพเดทข่าวการลูกหนัง ผลบอลสดประจำวัน ที่นี่ที่เดียว
|